หลังจากทำชิ้นส่วนเล็กๆ น้อยๆ หมดแล้ว เราก็มาพ่นสีชิ้นส่วนหลัก โมเดลคันนี้ BBboy เลือกใช้สีสะท้อนแสง PUD FL-1 Fluorescent red โดยก่อนพ่นสีสะท้อนแสงควรรองพื้นด้วยสีขาว

เพื่อให้สีสะท้อนแสงมีความสุขสว่างมากที่สุด ผมจึงรองพื้นด้วยสีขาว PUD L-1 ตามปกตินั้น การพ่นสีสะท้อนแสงให้เรียบทำได้ค่อนข้างยาก เพราะสีสะท้อนแสงเป็นสีพิเศษ ละอองเม็ดสีจะหยาบวิธีการพ่นให้เรียบนั้น

ทำได้โดยการผสมสีสะท้อนแสงเข้ากับสีเคลือบเงา ผมจึงผสม PUD FL-1 เข้ากับ PUD CL-6 ในอัตราส่วน 50:50 แล้วใช้ลมอ่อน พ่นด้วยแอร์บรัชขนาดหัวพ่น 0.5mm. ขึ้นไป

โดยการพ่นจ่อใกล้ๆ ชิ้นงาน ให้อยู่ในสภาพเกือบจะเยิ้ม แต่ไม่เยิ้ม เพื่อลดความหยาบของเม็ดสีโดยต้องทำหลายๆ รอบ พ่นด้วยเทคนิคนี้แล้วปล่อยให้แห้งแล้วพ่นซ้ำไปเรื่อยๆ

จนกว่าเฉดสีจะเข้มได้ตามต้องการ ซึ่งในรูป BBboy พ่นไปทั้งหมด 4 เที่ยว

จากนั้นจึงบังพ่นส่วนด้านล่างของถังน้ำมันด้วยสีดำเงา 

เมื่อพ่นสีพื้นเสร็จเรียบร้อยก็มาถึงขั้นตอนการติดรูปลอกน้ำ โดยการเตรียมพื้นผิวนั้น เราจะต้องทำให้พื้นผิวมีความเรียบมากที่สุดเพื่อรูปลอกจะได้ติดได้สนิทและไม่เกิดฝ้า

ขั้นตอนคือ พ่นสีเคลือบเงาลงไปหลายๆ ชั้นจนพื้นผิวเรียบที่สุด ในรูปผมใช้สีเคลือบ PUD CL-6 พ่นด้วยแอร์บรัชหัวขนาด 0.5mm. ขึ้นไป

ใช้ลมอ่อน(1-1.5 bar  หรือ 15-20 psi) พ่นจ่อใกล้ๆ ชิ้นงานจนเกือบจะเยิ้มแต่ไม่เยิ้ม เป็นจำนวน 6 เที่ยว เทคนิคการพ่นคือ พ่นเที่ยวที่ 1 เสร็จ ปล่อยให้แห้ง

สามารถใช้ไดร์เป่าผมเป่าลมร้อนเพื่อให้แห้งเร็วขึ้นได้ จากนั้นจึงพ่นเที่ยวที่ 2 และ 3 โดยทำแบบเดียวกัน และควรพ่นในวันที่มีความชื้นในอากาศไม่เกิน 60% 

เมื่อสีเคลือบแห้งสนิทแล้วก็พร้อมที่จะติอรูปลอกน้ำ เนื่องจากวิธีติดรูปลอกน้ำเป็นวิธีเฉพาะ ไว้คราวหน้าผมจะมาอธิบายอีกทีแล้วกันครับ

หลังจากติดรูปลอกน้ำจนครบหมดทุกชิ้นแล้ว เราจำเป็นจะต้องพ่นเคลือบอีกครั้งเพื่อทำการปกป้องรูปลอกน้ำ และเพื่อเตรียมขัดเงาสีด้วยน้ำยาขัดเงา

สำหรับขั้นตอนนี้เราจำเป็นต้องเคลือบเงาให้หนาที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ โดยใช้วิธีและเทคนิคการพ่นเคลือบแบบเดียวกับการพ่นเคลือบเตรียมพร้อมติดรูปลอก

จากในรูปผมพ่นไปทั้งหมด 12 เที่ยว

ปล.BBboy หมดสี PUD CL-6 ไป 2 ขวด 

หลังจากสีเคลือบเงาแห้งสนิทเป็นเวลา 1 วันแล้ว เราจึงมาขัดเคลือบสีอีกครั้ง โดยใช้น้ำยาขัดเคลือบสี ผมเลือกใช้ของ Tamiya เนื่องจากว่าสารขัดเคลือยค่อนข้างบางไม่กินเนื้อสีมากโอกาสผิดพลาดมีน้อย

ซึ่งท่านอื่นอาจจะใช้น้ำยาขัดเคลือบสีของรถยนต์มาใช้ก็ได้ไม่ได้ผิดอะไรครับ ขอเตือนไว้หน่อยนะครับ ขั้นตอนการขัดเคลือบสีนี้ต้องใช้สมาธิและความตั้งใจอย่างมาก เพราะถ้าคุณเกิดพลาด 

ขัดทะลุชั้นสีเคลือบลงไปจนถึงสีจริง หรือถึงรูปลอกน้ำจนเสียหาย โมเดลตัวนั้นจะไม่มีทางแก้อีกเลยครับ 

ขั้นตอนการขัดเคลือบสี ส่วนใหญ่แล้วน้ำยาขัดเคลือบสีจะประกอบด้วย น้ำยาขัดแบบหยาบกับแบบละเอียด และสุดท้ายคือแว๊กเคลือบสี

ให้เราขัดด้วยน้ำยาขัดหยาบก่อน โดยใช้น้ำยาป้ายกับเสื้อยืดเก่าๆ แล้วค่อยๆ ขัดวนไปช้าๆ ระหว่างขัดออกแรงเบาๆ คอยสังเกตดูผิวชิ้นงานโดยส่องกับไฟว่าเรียบขึ้นแล้วหรือยัง ในขั้นตอนขัดหยาบนี้บางครั้งชิ้นงานอาจเกิดฝ้า

ไม่ต้องตกใจเป็นเรื่องปกติ ให้ขัดไปเรื่อยๆ แล้วส่องกับไฟไม่เกิดรอยผิวส้มหรือผิวขรุขระของสี จากนั้นจึงมาขัดต่อด้วยน้ำยาขัดละเอียด โดยป้ายน้ำยาขัดกับผ้าไมโครไฟเบอร์เนื้อละเอียดค่อยๆ ขัดจนชิ้นงานขึ้นเงาสุกสว่าง 

ขั้นตอนนี้อาจจะนานตั้งแต่ครึ่งโมง จนหลายชั่วโมง ขอให้ตั้งใจค่อยๆขัดไป เมื่อชิ้นงานขึ้นเงาจนถึงที่สุดแล้วเราจึงมาขั้นตอนสุดท้ายนั่นคือการใช้แว๊กเคลือบชิ้นงานอีกครั้ง โดยการป้ายแว๊กกับผ้าไมโครไฟเบอร์

เนื้อละเอียดหรือผ้าเช็ดแว่น ขัดเบาๆ จนแว๊กเคลือบผิวงานจนทั่ว 

เพิ่มความสมจริงโดยการติดฟรอยกันความร้อยให้เรียบร้อย ฟรอยที่ใช้คือเทปกาวฟรอยที่เอาไว้ซ่อมกระมัง หาซื้อได้ตามร้านขายของเบ็ดเตล็ดทั่วไป

จากนั้นจึงค่อยๆเริ่มประกอบชิ้นส่วนต่างๆ เข้าด้วยกันจนกลายเป็นตัวรถ ในขั้นตอนนี้เป็นการผสมระหว่างกาวละลายพลาสติกและกาวตราช้าง 

ขั้นตอนสุดท้ายนี้เป็นขั้นตอนที่ต้องใช้สมาธิและความรอบครอบเป็นอย่างมากเพราะต้องติดชิ้นส่วนทั้งหมดโดยไม่ให้เห็นคราบกาวเลย แนะนำให้ทำอย่างใจเย็น

ค่อยๆ เป็นค่อยๆ ไป วันนี้ไม่เสร็จวันหน้าทำต่อได้

ติดสายเบรคสายเกียร์และติดอุปกรณ์ต่างๆจนครบ

สีต่างๆที่ใช้ในโปรเจคนี้

.

.

.

.

.

.